
ธนาคารกลางประเทศไนจีเรียได้ประกาศ ห้ามมีการใช้บัตรเดบิทและเครดิต ทั้ง MasterCard, VisaCard, Etranzact Cards and Verve Cards ในการซื้อสินค้าและบริการในต่างประเทศ เนื่องจากต้องการไม่ให้เงินมีการไหลออกนอกประเทศมากเกินไป โดยจะเริ่มใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2016 เป็นต้นไป
ความต้องการของบิทคอยน์ในตลาดนั้นมีสูงอยู่แล้ว และความต้องการซื้อขายของนักลงทุนก็ยากอยู่แล้ว ผมอยากจะรู้จริงๆจะเกิดอะไรขึ้นกับบิทคอยน์ หลังจากเดือนมกราคมปี 2016
และนาย Tony Fakah หัวหน้าฝ่ายพัฒนาและออกแบบการวางโครงข่ายข้อมูลใยแก้ว และเป็นหนึ่งในผู้ลงทุนกับบิทคอยน์ ที่คาดว่าจากการระงับของธนาคารอาจทำให้ราคาบิทคอยน์สูงขึ้น ดังได้ให้ทัศรรนะสั้นๆว่า
อาจจะเป็นโอกาสที่ดี ที่บิทคอยน์จะเป็นตัวหลักในระบบ ซึ่งอาจจะเป็นทันทีเลยก็ได้
แต่เหรียญก็มีสองด้านเสมอ นาย Geoffrey Weli Wosu ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท VoguePay ที่ให้บริการการรับและชำระเงินผ่านธนาคาร และบัตรเครดิตรายใหญ่ในประเทศ ได้วิเคราะห์ว่า “จากกรณีที่จะเกิดขึ้นนี้อาจเป็นข่าวดีสำหรับผู้ที่ถือบิทคอยน์ในมือ ซึ่งราคาอาจจะร้อนแรงมากในช่วงปีหน้า เพราะความต้องการมากขึ้น แต่ว่าในระดับสากล บิทคอยน์อาจจะยังไม่เป็นที่ยอมรับการใช้จ่ายก็เป็นได้”
แต่สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือ การรับรู้เรื่องบิทคอยน์ในประเทศไนจีเรีย เพิ่มมากขึ้น
ที่มาของข่าว cointelegraph